การให้บริการ
ผู้สนใจสมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ จำกัด ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
(1) เป็นผู้เห็นชอบในวัตถุประสงค์ของสหกรณ์
(2) เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ
(3) เป็นข้าราชการหรือลูกจ้างประจำ หรือพนักงานราชการ
ก. สังกัดในกรมหรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเป็นกรม ที่ทำการเบิกจ่ายเงินเดือนจากฝ่ายคลังหรือต้นสังกัด
ข. ในสถานศึกษาของรัฐสังกัดกรมที่ทำการเบิกจ่ายเงินเดือนต้นสังกัด หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเป็นกรม หรือพนักงานมหาวิทยาลัย และให้หมายความรวมถึงพนักงานซึ่งสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาด้วย
(4) เจ้าหน้าที่สหกรณ์
(5) เป็นผู้มีความประพฤติดีงาม
(6) มิได้เป็นสมาชิกในสหกรณ์ออมทรัพย์อื่น ที่มีวัตถุประสงค์ในการให้กู้ยืมเงิน
การเข้าเป็นสมาชิก
- ผู้สมัครเป็นสมาชิกต้องยื่นใบสมัครถึงสหกรณ์ตามแบบที่กำหนดไว้ และต้องมีสมาชิก จำนวน 2 คน รับรอง
- เมื่อคณะกรรมการดำเนินการ ได้สอบสวนพิจารณาเป็นที่พอใจว่าผู้สมัครมีคุณสมบัติถูกต้อง ทั้งเห็นเป็นการสมควรรับเข้าเป็นสมาชิกได้ ก็ให้แจ้งผู้สมัครนั้นลงลายมือชื่อของตนในทะเบียนสมาชิก กับชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้า และชำระค่าหุ้นตามจำนวนที่จะถือให้ครบถ้วน แล้วเสนอเรื่องการรับสมาชิกเข้าใหม่ให้ที่ประชุมใหญ่คราวถัดไปทราบ
ค่าธรรมเนียมแรกเข้า
ผู้เข้าเป็นสมาชิกต้องชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้าให้แก่สหกรณ์คนละ 50 บาท ค่าธรรมเนียมแรกเข้านี้ให้ถือเป็นรายได้ของสหกรณ์ จะเรียกคืนไม่ได้
การตั้งผู้รับโอนประโยชน์
- สมาชิกจะทำหนังสือตั้งบุคคลหนึ่งหรือหลายคน เพื่อให้เป็นผู้รับโอนประโยชน์ซึ่งตนมีอยู่ในสหกรณ์ในเมื่อตนตายนั้นมอบให้สหกรณ์ถือไว้ หนังสือตั้งผู้รับโอนประโยชน์ดังว่านี้ต้องทำตามแบบที่สหกรณ์กำหนด
- ถ้าสมาชิกประสงค์จะเพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลงการตั้งผู้รับโอนประโยชน์ที่ได้ทำไว้แล้ว ก็ต้องทำเป็นหนังสือตามแบบที่สหกรณ์กำหนดในวรรคก่อนมอบให้สหกรณ์ถือไว้
- เมื่อสมาชิกตาย ให้สหกรณ์แจ้งให้ผู้รับโอนประโยชน์ตามความในวรรคก่อนทราบ และสหกรณ์จะจ่ายเงินค่าหุ้น เงินรับฝาก เงินปันผล เงินเฉลี่ยคืน และเงินผลประโยชน์หรือเงินอื่นใดบรรดาที่สมาชิกผู้ตายมีอยู่ในสหกรณ์ให้แก่ผู้รับโอนประโยชน์ที่ได้ตั้งไว้ หรือถ้ามิได้ตั้งไว้ก็คืนให้แก่บุคคลที่ได้นำหลักฐานมาแสดงให้เป็นที่พอใจแก่กรรมการดำเนินการว่าเป็นทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินจำนวนดังกล่าวนั้น
- ให้ผู้รับประโยชน์ตามความในวรรคแรก ยื่นคำขอรับเงินผลประโยชน์ต่อสหกรณ์ภายในกำหนดหนึ่งปี นับแต่วันที่สมาชิกตายหรือได้รับแจ้งจากสหกรณ์ โดยให้แนบสำเนามรณบัตรที่ทางราชการออกให้แสดงว่าสมาชิกนั้น ๆ ได้ถึงแก่ความตายประกอบพิจารณาด้วย เมื่อคณะกรรมการดำเนินการได้พิจารณาและอนุมัติแล้ว สหกรณ์จะจ่ายเงินผลประโยชน์ดังกล่าวภายในสี่สิบห้าวัน ในกรณีผู้มีสิทธิรับเงินผลประโยชน์ไม่ยื่นคำขอรับเงินผลประโยชน์ หรือผู้ที่มีชื่อเป็นผู้รับโอนประโยชน์ที่สมาชิกได้จัดทำให้สหกรณ์ถือไว้ไม่มีตัวอยู่ก็ดี เมื่อพ้นกำหนดอายุความฟ้องคดีให้สหกรณ์โอนจำนวนเงินดังกล่าวไปสมทบเป็นทุนสำรองของสหกรณ์
- ในกรณีที่ตั้งผู้รับประโยชน์ไว้หรือไม่ได้ตั้งผู้รับประโยชน์ก็ดี หากมีทายาทหลายคนหรือมีเงินจำนวนมากสหกรณ์อาจให้ทายาทไปตั้งผู้จัดการมรดกก่อนก็ได้
การขาดสมาชิกภาพ สมาชิกย่อมขาดจากสมาชิกภาพเพราะเหตุใด ๆ ดังต่อไปนี้
(1) ตาย
(2) ลาออกจากสหกรณ์
(3) เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ
(4) ต้องคำพิพากษาให้ล้มละลาย
(5) ถูกออกจากราชการ หรืองานประจำโดยมีความผิด
(6) ถูกให้ออกจากสหกรณ์
การลาออกจากสหกรณ์
- สมาชิกผู้ไม่มีหนี้สินอยู่ต่อสหกรณ์ในฐานะผู้กู้หรือผู้ค้ำประกันอาจลาออกจากสหกรณ์ได้ โดยแสดงความจำนงเป็นหนังสือต่อคณะกรรมการดำเนินการ และเมื่อคณะกรรมการดำเนินการได้สอบสวนพิจารณาแล้ว หากเห็นว่าเป็นการชอบด้วยข้อบังคับและอนุญาตแล้ว ก็ให้ถือว่าออกจากสหกรณ์ได้
- คณะกรรมการดำเนินการอาจมอบหมายให้ประธานกรรมการ หรือรองประธานกรรมการ หรือกรรมการดำเนินการ สอบสวนพิจารณา หากเห็นว่าเป็นการชอบด้วยข้อบังคับ ก็ให้ถือว่าออกจากสหกรณ์ตามความในวรรคก่อนได้ แล้วให้เสนอคณะกรรมการดำเนินการทราบในการประชุมคราวถัดไป
การให้ออกจากสหกรณ์ สมาชิกอาจถูกให้ออกจากสหกรณ์เพราะเหตุอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้
(1) ไม่ชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้า
(2) ขาดชำระค่าหุ้นรายเดือนถึงสามงวดติดต่อกันหรือขาดชำระรวมถึงหกงวด ทั้งนี้ โดยมิได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการดำเนินการ
(3) นำเงินกู้ไปใช้ผิดความมุ่งหมายที่ให้เงินกู้นั้น
(4) ไม่จัดการแก้ไขหลักประกันสำหรับเงินกู้ที่เกิดบกพร่องให้คืนภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการดำเนินการกำหนด
(5) ค้างส่งเงินงวดชำระหนี้ ไม่ว่าต้นเงินหรือดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเวลาสองเดือน หรือผิดนัดการส่งเงินงวดชำระหนี้ดังว่านั้น ถึงสามคราวสำหรับเงินกู้รายหนึ่ง ๆ
(6) ไม่ให้ข้อความจริงเกี่ยวกับหนี้สินของตนเองแก่สหกรณ์เมื่อสมัครเข้าเป็นสมาชิก หรือเมื่อจะก่อความผูกพันในหนี้สินต่อสหกรณ์ในฐานะผู้กู้ หรือผู้ค้ำประกัน หรือเมื่อมีความผูกพันในหนี้สินต่อสหกรณ์อยู่แล้ว
(7) จงใจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ มติ และคำสั่งของสหกรณ์ หรือประพฤติการใดๆ อันเป็นเหตุให้เห็นว่าไม่ซื่อสัตย์สุจริต หรือแสดงตนเป็นปฏิปักษ์หรือทำให้เสื่อมเสียต่อสหกรณ์ไม่ว่าโดยประการใด
สิทธิและหน้าที่ในฐานะสมาชิก ผู้เข้าเป็นสมาชิกต้องลงลายมือชื่อของตนในทะเบียนสมาชิก กับชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้า และค่าหุ้นตามจำนวนที่จะถือครบถ้วน เมื่อได้ปฏิบัติดังนี้แล้วจึงจะถือว่าได้สิทธิในฐานะสมาชิก
สิทธิของสมาชิก มีดังนี้
(1) เข้าร่วมประชุมใหญ่ เพื่อเสนอความคิดเห็นหรือออกเสียงลงคะแนน
(2) เข้าชื่อเรียกประชุมใหญ่วิสามัญ
(3) เสนอหรือได้รับเลือกเป็นกรรมการดำเนินการสหกรณ์ หรือผู้ตรวจสอบกิจการสหกรณ์
(4) ได้รับบริการทางธุรกิจและทางวิชาการจากสหกรณ์
(5) สิทธิอื่น ๆ ที่กำหนดไว้ในข้อบังคับและระเบียบของสหกรณ์
หน้าที่ของสมาชิก มีดังนี้
(1) ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติ และคำสั่งของสหกรณ์
(2) เข้าร่วมประชุมทุกครั้งที่สหกรณ์นัดหมาย
(3) ส่งเสริมสนับสนุนกิจการของสหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์เป็นองค์กรที่เข้มแข็ง
(4) สอดส่องดูแลกิจการของสหกรณ์
(5) ร่วมมือกับคณะกรรมการดำเนินการ เพื่อพัฒนาสหกรณ์ให้เจริญรุ่งเรืองและมั่นคง
สมาชิกสมทบ สหกรณ์อาจรับสมาชิกสมทบได้ตามที่เห็นสมควร โดยต้องสมัครเข้าเป็นสมาชิกสมทบด้วยความสมัครใจ และมีความประสงค์จะใช้บริการต่าง ๆ ของสหกรณ์เป็นประจำ
สมาชิกสมทบต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
(1) เป็นผู้เห็นชอบในวัตถุประสงค์ของสหกรณ์
(2) เป็นผู้มีความประพฤติดีงาม
(3) เป็นผู้ที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ มติ และคำสั่งของสหกรณ์
(4) มิได้เป็นสมาชิกในสหกรณ์ออมทรัพย์อื่นที่มีวัตถุประสงค์ในการให้กู้ยืมเงิน
(5) เป็นนิติบุคคล
(6) เป็นบุคคลในครอบครัวสมาชิก ได้แก่ บิดา มารดา คู่สมรสของสมาชิก และบุตรสมาชิก
การได้เข้าเป็นสมาชิกสมทบ
ผู้ประสงค์สมัครเข้าเป็นสมาชิกสมทบต้องยื่นใบสมัครถึงสหกรณ์ตามแบบที่กำหนดไว้ โดยต้องมีสมาชิกสหกรณ์นี้ไม่น้อยกว่า 2 คนรับรอง เมื่อคณะกรรมการดำเนินการได้สอบสวนพิจารณาแล้วว่า ผู้สมัครมีคุณสมบัติถูกต้อง ทั้งเห็นเป็นการสมควรแล้ว ก็ให้รับเข้าเป็นสมาชิกสมทบได้และต้องจัดให้ผู้สมัครได้ลงลายมือชื่อในทะเบียนสมาชิกสมทบกับชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้าครบถ้วน เมื่อสมาชิกสมทบได้ปฏิบัติตามวรรคก่อนแล้วย่อมได้สิทธิในฐานะสมาชิกสมทบ
ค่าธรรมเนียมแรกเข้า
ผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกต้องชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้าให้แก่สมาชิกจำนวนหนึ่งร้อยบาท ค่าธรรมเนียมแรกเข้านี้ให้ถือว่าเป็นรายได้ของสหกรณ์จะเรียกคืนไม่ได้ไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ
ผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกต้องถือค่าหุ้นได้คนละหนึ่งร้อยบาท (มติคณะกรรมการดำเนินการ ชุดที่ 35 ในการประชุมครั้งที่ 9 เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2558 อนุมัติให้สมาชิกสมทบทุกคนถือหุ้นอย่างต่ำคนละ 100 บาท สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท โดยจะซื้อหุ้นครั้งเดียวหรือหลายครั้งก็ได้แต่รวมแล้ว ไม่เกิน 30,000 บาท)